นักเทรดกลยุทธ์ครั้งแรกต้องอ่าน

คู่มือสำหรับมือใหม่เรื่องการเทรดกลยุทธ์

1. การสร้างกลยุทธ์

• ราคาขั้นต่ำ/สูงสุด: กำหนดช่วงของ Grid ที่กลยุทธ์จะดำเนินงาน

• จำนวน Grid: แบ่งช่วงราคาออกเป็นหลาย Grid มีผลกับส่วนต่างกำไรของ Grid เดี่ยว

2. การดำเนินงานกลยุทธ์

• หลังจากที่ราคาแบบเรียลไทม์ได้ทริกเกอร์ Order ซื้อให้ดำเนินการแล้ววาง Order ขายที่ราคาสูงสุด

• หลังจากที่ราคาแบบเรียลไทม์ได้ทริกเกอร์ Order ขายให้ดำเนินการแล้ววาง Order ขายที่ราคาต่ำสุด

3. การยุติกลยุทธ์

• หลังจากที่กลยุทธ์ยุติ ระบบจะไม่วาง Order อีก

• ระบบจะโอนสินทรัพย์ของคุณโดยอัตโนมัติจากบัญชีกลยุทธ์ไปยังบัญชี Spot

พอร์ทัลการเทรดกลยุทธ์

เนื่องด้วยล่าสุดมีข้อเสนอแนะจากผู้ใช้ เราจึงได้จัดทำกลยุทธ์สำหรับมือใหม่ขึ้นเพื่อใช้ในการอ้างอิง โปรดทราบว่าวิธีการต่อไปนี้ไม่ใช่คำแนะนำในการลงทุน

1. เลือกประเภทกลยุทธ์ตามสภาพตลาด

• เมื่อตลาดมีความผันผวนสูงหรือในกรณีที่คุณอยู่ในสถานการณ์ Range Trading (การเทรดในกรอบ) ให้เลือกใช้กลยุทธ์ การเทรด Spot/Futures

• หากคุณต้องการเพิ่มจำนวนเงินลงทุน ณ จุดราคาหนึ่งและคาดการณ์ว่าราคาจะเพิ่มสูงขึ้นในระยะยาว ให้เลือกใช้กลยุทธ์ DCA

• หากคุณต้องการเพิ่มจำนวนเงินลงทุน ณ ช่วงเวลาหนึ่งและคาดการณ์ว่าราคาจะเพิ่มสูงขึ้นในระยะยาว ให้เลือกใช้กลยุทธ์การลงทุนแบบอัตโนมัติ

2. เลือกโหมดการวาง Order

(1) กลยุทธ์ AI

ระบบจะเลือกพารามิเตอร์กลยุทธ์ที่เหมาะสมที่สุดตามการทำ Backtest ข้อมูลในอดีต ผู้ใช้ทำแค่เพียงตั้งจำนวนเงินลงทุน

(2) การสร้างด้วยตัวเอง

ผู้ใช้สามารถตั้งพารามิเตอร์ได้ เช่น ราคาสูงสุด ราคาต่ำสุด จำนวน Grid และจำนวนเงินที่จะลงทุน เมื่อตั้งพารามิเตอร์เรียบร้อยแล้ว ให้กด “สร้างกลยุทธ์ / Generate Strategy” แล้วระบบจะวาง Order และเทรดให้คุณโดยอัตโนมัติ

หมายเหตุ: กลยุทธ์ AI เหมาะสำหรับมือใหม่ การทำ Backtest ข้อมูล Grid APR ระยะ 7 วัน, PNL ของ Grid เดี่ยว และข้อมูลอื่นๆ ล้วนมาจากการทำ Backtest ข้อมูลในอดีต จึงไม่ได้สะท้อนถึงผลกำไรในอนาคตของคุณ

3. เลือกโทเค็นที่เหมาะสม

• โทเค็นกระแสหลักควรเป็นตัวเลือกแรกของคุณ เพราะมีปริมาณการเทรดที่สูงกว่าและมี สภาพคล่องที่ดีกว่า ซึ่งจะทำให้หาโอกาสทำกำไรได้ง่ายกว่า

• โทเค็นที่มีความผันผวนสูง เลือกโทเค็นที่มีความผันผวนกระจายออกค่อนข้างกว้างสำหรับการเทรด Grid

หมายเหตุ: หากคุณเป็นมือใหม่ แนะนำให้เลือกโทเค็นกระแสหลัก เช่น BTC/USDT และ ETH/USDTหากคุณเป็นผู้ใช้ที่มีประสบการณ์แล้ว ก็สามารถลองมองหาโทเค็นที่มีความผันผวนสูงสำหรับการเทรด Grid ได้

4. การตั้งช่วงราคา Grid

หากต้องการทำกำไรให้ได้สูงสุด สิ่งสำคัญคือการเพิ่มความสามารถในการทำกำไรของแต่ละ Grid ดังนั้นการตั้งช่วงราคาที่สมเหตุสมผลจึงมีความสำคัญยิ่ง

เช่น สำหรับนักเทรดสายเดย์เทรด ช่วงราคาอาจกำหนดได้ตามกฎ “ราคาสูงสุดในช่วง = แนวต้านของวัน” และ “ราคาต่ำสุดในช่วง = แนวรับของวัน” แน่นอนว่านี่เป็นเพียงวิธีการง่ายๆ ในการกำหนดช่วงราคา สามารถใช้กลยุทธ์อื่นๆ ที่เหมาะสมกับตนเองได้เช่นกัน

หมายเหตุ: เราแนะนำให้คุณยุติกลยุทธ์ด้วยตนเองเมื่อพิจารณาแล้วเห็นว่าราคาปัจจุบันเบี่ยงเบนออกไปจากช่วงราคาที่ตั้งไว้ หลังจากนั้นสามารถเริ่มกลยุทธ์ใหม่ได้หลังจากที่ตั้งช่วงราคาใหม่แล้ว เพื่อให้มั่นใจได้ว่ากลยุทธ์ของคุณสามารถดำเนินการกับธุรกรรมที่จับคู่กันได้และทำกำไรได้

5. การตั้งความหนาแน่นของ Grid

ความหนาแน่นของ Grid กำหนดโดยขนาดของแต่ละ Grid ยิ่งมี Grid หนาแน่นมาก กำไรของ Grid เดี่ยวก็ยิ่งน้อย จะมีการทำธุรกรรมถี่ขึ้นและค่าธรรมเนียมธุรกรรมก็สูงขึ้นด้วย แต่ถ้ามี Grid หนาแน่นน้อย กำไรของ Grid เดี่ยวก็ยิ่งมากขึ้น จะมีการทำธุรกรรมถี่น้อยลงและค่าธรรมเนียมธุรกรรมก็ต่ำลงด้วย การตั้ง Grid ให้มีความหนาแน่นที่สมเหตุสมผลจึงเป็นสิ่งสำคัญ

หมายเหตุ: เราแนะนำให้ตั้งมากกว่า 20 Grid โดยสรุปแล้วคือให้ตั้งจำนวน Grid ให้สมเหตุสมผล เพื่อให้สามารถทำกำไรได้มากขึ้นจากกลยุทธ์ Grid

6. การเทรดกลยุทธ์: ต้องทำอย่างไร

Bitget มีฟีเจอร์การเทรดกลยุทธ์ที่ช่วยให้ผู้ใช้คัดลอกกลยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย การคัดลอกกลยุทธ์นี้ช่วยให้ประหยัดได้ทั้งแรงและเวลา โดยจะคอยเข้าซื้อที่ราคาต่ำแล้วขายออกที่ราคาสูงให้คุณโดยอัตโนมัติตลอด 24 ชั่วโมง

• Subscribe กับ Strategist และคัดลอกกลยุทธ์ของ Strategist โดยอัตโนมัติได้เลย

• ซื้อกลยุทธ์แล้วนำมาใช้งานได้ทุกเมื่อที่ต้องการโดยไม่มีวันหมดอายุ

หมายเหตุ: หากคุณเป็นมือใหม่ เราแนะนำให้คุณ Subscribe ผู้เชี่ยวชาญกลยุทธ์ใน Strategy Square โดยดูตามอันดับ PNL ของกลยุทธ์ จำนวน Subscriber และกำไรทั้งหมดของ Subscriber ของผู้เชี่ยวชาญ

7. การติดตามประวัติการเทรดกลยุทธ์ของคุณ

• ไปที่ “กลยุทธ์ของฉัน / My Strategies” เพื่อดูกลยุทธ์ที่รอดำเนินการและดำเนินการอยู่

• ไปที่ “กลยุทธ์ในอดีต / Historical Strategies” เพื่อดูกลยุทธ์ที่ผ่านมา

• กด “หยุด / Stop” เพื่อหยุดการดำเนินงานของกลยุทธ์ (ระบบจะคิด PNL ที่เกิดขึ้นจริงที่ราคาตลาด ณ ขณะนั้น)

หมายเหตุ: เราแนะนำให้ผู้ใช้ทุกคนตั้งราคา Stop Loss ไว้ด้วยเพื่อควบคุมความเสี่ยง ผู้ใช้ควรทันสถานการณ์เทรนด์ตลาดอยู่เสมอเพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยน Grid ได้อย่างเหมาะสม

ข้อสงวนสิทธิ์

คริปโทเคอร์เรนซีมีความเสี่ยงและความผันผวนในตลาดสูงแม้จะมีศักยภาพในการเติบโตสูงเช่นกัน ขอแนะนำให้ผู้ใช้ศึกษาข้อมูลด้วยตนเองและลงทุนด้วยดุลยพินิจของตนเอง Bitget ไม่มีส่วนรับผิดชอบต่อความสูญเสียใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการลงทุน